วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำเนื้อทอด และเนื้อย่างให้อร่อย

เพื่อนบางคนอาจจะชอบทานเนื้อ หรือพวกนักคอเหล้าทั้งหลายที่ชอบทาน
เนื้อทอด
หรือเนื้อย่างแก้มกับเหล้าวันนนี้เจ๊เก็เลยนำ เคล็ดไม่ลับบาง
อย่างให้นะจ๊ะ เช่น ถ้าจะทำเนื้อทอดกระเทียมพริกไทยเมื่อโขลก
กระเทียม พริกไทย แล้วก็นำมาคลุกับเนื้อที่แล่เรียบร้อยแล้ว ก็ทำ
การเหยาะน้ำปลาลงไปพอเสร็จแล้วก็นำเหล้าใส่ลงไปสัก 2 ช้อน
แล้วก็ทำการหมักทิ้งไว้สัก 10 นาทีแล้วค่อยนำมาทอดหรือถ้าเพื่อนๆ
ชอบแบบย่าง ก็นำเนื้อที่แล่เสร็จแล้วนำไปคลุกรวมกับน้ำปลา แล้วก็
เติมเหล้าลงไป 2 ช้อนทิ้งไว้ 10 นาที ก็นำมาย่างได้ละแหม๋ทาน
กับข้าวเหนียวร้อนๆ หรือ ข้าวเหนียว อูยลืมไปไม่ร้อนจิ เอาแค่อุ่นๆ
พอเน๊อะ เด๋วลวกปาก หรือไม่ก็ ทำจิ้ม เอาพริกป่นใส่ มะนาว
และน้ำปลาใส่ หรือบางคนอาจจะชอบซอยกระเทียมสดลงไป หรือ
จะเพิ่ม ผักชีซอยเข้าไป อูยหิวแล้วจ้า อิๆ

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Modoeye Crab Cakes











ส่วนประกอบ Crab Cakes :

1. เนื้อปู 1/2 กก.
2. พริกระฆังสีแดง 1/4 และ สี เหลือง 1/4 ลูก หั่นเต๋า
3. หัวหอมใหญ่สับ 1/2 ลูก
4. ไข่ 2 ฟอง
5. มายองเนส 2 ช้อนโต๊ะ
6. มัสตาส 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
8. เกลือ ปลายช้อนชา
9. พริกไทย 1/2 ช้อนชา
10. เนย 2 ช้อนโต๊ะ
11. เกร็ดขนมปัง 1 ถ้วย
12. เนยสำหรับทอด 1 ช้อนโต๊ะ และ ผสมในที่หมัก 2 ช้อนโต๊ะ
13. น้ำมันเอาไว้ทอด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ Crab Cakes :

1. นำส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วคลุกให้ทั่วนะจ๊ะ แล้วพักไปสัก 1/2 ชม.
2. นำมาปั้นเป็นก้อนๆ จะเล็กใหญ่แล้วแต่นะจ๊ะ กดให้แบน นิดๆ ตะล่อมๆข้างๆให้สวยงาม
3. นำน้ำมันและเนย ตั้งไฟแล้วนำปูที่ปั้นลงทอด พอเหลืองๆสวยๆก็ยกขึ้นแต่อย่าเหมือนเจ๊นะ ดำส๊ะ

ส่วนผสมน้ำราด และจิ้ม :

1. มายองเนส 4 ช้อนโต๊ะ
2. มัสตาส 1 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือปลายช้อนชา
4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

...แต่ถ้าคนชอบออกเปรี้ยวๆ จะเติมน้ำมะนาว ตามรสได้นะ

วิธีทำน้ำราด

1. นำทุกอย่างมาผสมกันแล้วคนๆๆให้เข้ากันจ้า

วิธีทำผักข้างเคียง :

1. นำผักที่คุณโปรดปรายลงต้ม หรือจะนึ่งแล้วแต่นะจ๊ะ

ส่วนผสมของมันบด :

1. มัน 1 กก.
2. เนย 1/2 ก้อน
3. พริกไทย 1 ช้อนชา
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
6. นมสด 1/2 ถ้วย

..ถ้าเพื่อนๆ ชอบอะไรเข้มข้นก็เติมตามชอบนะจ๊ะ

วิธีทำมันบด :

1. นำมันปลอกเปลือกแล้วล้างแล้วนำไปต้มจนนิ่ม
2. นำมันที่นิ่มแล้วนำมาบี้ๆๆ ให้เละแล้วนำนำส่วนผสมอื่นๆใส่ลงไปแล้วคลุกให้ทั่วๆ

...ทุกอย่างที่เล่ามา ถ้าเพื่อนๆ ชอบรสชาติแบบไหนก็สามารถเติมลงไปได้ตามใจชอบนะจ๊ะ ถ้าไม่ชอบอะไร ก็ตัดออกไป หรือลดสูตรลงไป สูตรของเจ๊ ไม่แน่นอน คือ ชอบอะไรตามใจปากโยนลงไป เพื่อนๆก็ทำตามใจตัวเองนะจ๊ะ มะต้องตามหลักการมาก

...
ดูจิ เจ้าลูกสาวเวลาทำกับข้าวเขาจะมานั่งมองครั้งนี้ สนใจมากหน่อยทำจมูก เขยิ๊บๆๆเข้ามาเส๊ เจ้านี่ได้กลิ่นเนย พอดมหาเสร็จ (((แบบว่าซ่อนมะให้เจอ))) ดูจิทำหน้า อู้...ป่าปี้จูโล่ ทำอาราย เลยจับมาเป็นนางแบบส๊ะ

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำแกงหวายให้อร่อย

ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ เคยทานแกงหวายหรือเปล่า แต่เจ๊ออกตัวก่อนเลยนะ
จ๊ะว่าไม่เคยทาน อิๆ พอดีพี่ที่เคยอยู่ที่บ้าน เขาเป็นคนอีสาน คุยไปคุยมา มา
ตรงเรื่องแกงหวายยังไงก็มะรู้ ก็เลยงง ถามพี่เขาว่ามีด้วยเหรอไม่เคยได้ยิน
เขาก็เลยบอกว่า ถ้าจะให้อร่อยเวลาตัดมาแล้วถ้าจะเก็บไว้ค้างคืนจะต้องเผา
ปลายยอดหวาย เพื่อยอดจะได้ไม่แข็ง และพอเวลาแกงก็ยังไม่ต้องต้มนะจ๊ะ
เพราะถ้าต้มจะทำให้ขมมากค่ะ เพื่อนๆก็ต้มน้ำใบย่านางให้เดือดก่อนแล้วค่อย
ใส่หวายลงไป ที่แกะและตัดไว้เป็นชิ้นๆเสร็จแล้วนำลงไปกับยอดส้มป่อย
สัก 4-5 ยอด แค่นี้เองก็จะไม่มีรสขมและอร่อยแหม๋ เลยบอกพี่เขาว่าเอาไว้
ไปบ้านเขาเมื่อไหร่ โชว์ให้ดูหน่อยเด้อ

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำกุ้งอบวุ้นเส้น







ส่วนประกอบ :
1. กุ้งแม่น้ำ 1/2 กก.
2. มันหมูนิดหน่อย หรือ จะเป็นเบคอนก็ได้
3. ขิงหั่นแว่นบุบ 4 แว่น ถ้าชอบกลิ่นฉุนก็เพิ่มได้ค่ะ
4. วุ้นเส้นแช่น้ำ 2 ห่อ
5. พริกไทยดำบุบ 1 ช้อน
6. ใบตั้งโอ๋หั่นขนาด 1 นิ้ว 2 ต้น
7. น้ำมัน 1 ช้อนชา
8. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำปลานิดหน่อย แต่ถ้าเค็มแล้วก็ไม่ต้องหรือถ้าไม่ชอบก็ซีอิ้วขาวค่ะ
11. น้ำซุป 1 ถ้วย
12. ใส่ซีอิ้วดำประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ถ้าไม่ชอบไม่ต้องใช้ แต่ที่ทำไม่ใช่ค่ะ
วิธีทำ :
1. นำน้ำมันตั้งไฟ นำกุ้งไปผัดๆ ให้สุก
2. นำขิงและใบตั้งโอ๋บางส่วน พริกไทย บางส่วนลงไปผัดพอหอมๆ
3. นำน้ำมันหอย น้ำปลาหรือซีอิ้วขาว น้ำตาล ลงไปผัด
4. เขี่ยๆๆ เอามันหมูหรือ เบคอนไว้ตรงกลางกะทะหรือหม้อแต่ที่ทำนี่ไม่ใส่หมู หรือเบคอน อันนี้แล้วแต่ชอบนะค่ะ
5. นำวุ้นเส้นที่แช่น้ำไว้แล้วให้พอนิ่มสักประมาณ 15 นาที นำลงไปใส่ในหม้อ แล้วก็คลุกๆๆแล้วเติมน้ำซุปนิดหน่อยปิดฝา
6. พอประมาณสัก 10 นาที ก็เปิดดูสักนิดแล้วกลับด้าน หรือคลุกๆ อีกที ดูพอสุกพยามอย่าให้เละ แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ




วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีแก้หนังหมูเหม็นสาบ

เพื่อนคงเคยเจอกับปัญหาหนังหมูที่เหม็นสาบ พอจะทำแล้วรู้สึก
เสียอารมณ์จริงๆเล๊ย วันนี้ก็เลยขอแนะนำเผื่อจะได้เป็นประโยชน์
บ้างนะจ๊ะ เพื่อนๆ ลองนำหนังหมูลงไปแช่น้ำเย็นให้มันนิ่มสะก่อน
แล้วทำการขยำๆหลายๆ ครั้งแล้วก็หั่นตามชอบ แล้วก็นำไปใส่ภาชนะ
นำน้ำส้มสายชูเทลงไปพอประมาณ แล้วทำการขยำๆ แรงๆ นะจ๊ะ
จนกว่าหนังหมูจะขาวฟู และหายเหม็นสาบ ก่อนที่จะนำมาปรุง
อาหารนั้นควรที่จะต้มในน้ำเดือดแล้วเทน้ำทิ้งสักครั้งนึงก่อนนะค่ะ

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำหอยจ๊อ



วิธีทำ :

1. กุ้งสับ 400 กรัม
2. เนื้อปู 250 กรัม
3. หมูสับ 500 กรัม
4. ไข่ 2 ฟอง
5. แป้งสาลี 4 ช้อนโต๊ะ
6. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
8. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
10. ไวน์ขาว ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ
11. ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วย
12. ผักชีซอย 1.2 ถ้วย
13. ฟองเต้าหู้ ที่ซื้อถุงละ 25 บาทลืมถามว่าน้ำหนักเท่าไหร่ อิๆ
14. น้ำมันทอด 500 มล.
15. เชือกฝ้ายสำหรับมัด แต่ที่ทำพอดีมีนิดเดียวหมดลืมซื้อเลยใช้ด้ายแทน แห่ะๆ
16. เกลือ 1/2 ช้อนชา
17. น้ำจิ้มบ๊วย ลองใช้ของถูกดูยี่ห้อ ฉั่วฮะเส็ง รู้สึกถูกปาก ปรกติไม่ค่อยชอบ
ทานรู้สึกไงมะรู้ แต่ครั้งนี้ลองเปลี่ยนยี่ห้อถูกปากหน่อย อ่อนดีมั้งกลิ่น อันนี้แล้ว
แต่เพื่อนๆจะชอบนะจ๊ะ

วิธีทำ :

1. นำกุ้งสับ หมูสับ ปู และส่วนผสมทั้งหมด
2. นำมาคลุกๆๆ ให้ผสมให้เข้ากัน
3. นำฟองเต้าหู้มาห่อที่นำมาใช้มันเป็นแบบสด หรือถ้าเพื่อนๆ ซื้อแบบไม่สด
ก็นำมาแช่น้ำแล้วยกขึ้นนำไปซับกับกระดาษเช็ดแบบใหญ่
4. นำมามัดๆ เป็นปล้องๆ พอดีเจ๊มือใหม่มันเป็น
ปล้องๆ โตๆ
5. นำลงทอด แดดดี้ เห็นต๊กกะจาย เห่อๆเลยบอก
มือใหม่ ก๊าปป ป๊อ แถมสี
น้ำตาล ปี๋ พูดแบบสวยงามก็คือดำ ไม่น่ากินเล๊ย ไว้แก้ตัวใหม่นะจ๊ะ แต่บางคน
ก็จะนึ่งก่อน แต่ก็ลองทำสองแบบ หมายถึงรสชาติ ของตัวเองอะนะก็คือ
ชอบแบบไม่ต้องนึ่ง พอนึ่งรู้สึก รสชาติอ่อนลงแล้วแต่เพื่อนๆ จ้าแบบทานเองอะนะ
ไม่ได้นำไปขาย
6. พอเสร็จแล้วก็ทานกับน้ำจิ้มบ๊วย หรือซอสพริกหรือน้ำจิ้มตามชอบ

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีต้มถั่วเขียวให้น้ำใส

หวัดดีจ้า

เวลาเขียนเรื่องนี้แล้วแหม๋ ทำให้ย้อนหลังในสมัยเยาว์วัยว่าไปแล้วเด๋ว
ต้องไปซื้อมาทำบ้างดีกว่าเน๊อะ แพ่ๆๆ ถั่วเละๆ ถ้วยนึง อิๆ แต่เดี๋ยวนี้ก็ยัง
ชอบอยู่แต่ก็คงลดหวานลงไม่เหมือนแต่ก่อน เริ่มสูงวัยเจอน้ำตาลมากก็จะมี
ผลต่อร่างกายเน๊อะ ((แบบหาพวก)) ถ้าเพื่อนๆ บางคนรักษาสุขภาพก็
สามารถซื้อน้ำตาลแบบ ครึ่งๆ มีหลายยี่ห้ออยู่เหมือนกันหาซื้อง่าย เอาหล่ะ
ฝอยสะยาว ขอแนะนำเพื่อนๆ ถ้าบางคนต้มแล้วดูน้ำขุ่นๆ ไม่น่าทานเล๊ย
((แต่เจ๊นะขอบอกก็ชอบน้ำคลั่กๆ)) แต่เอาหล่ะต่างจิตต่างใจวันนี้เอาใจ
คนชอบน้ำใสละกันเด๋วเพื่อนๆ ส่วนนึงจะน้อยใจ เพื่อนๆตอนต้มน้ำก็ใช้
ไฟแรงๆ น้ำที่ใส่เข้าไปก็ไม่ต้องมากนัก เอาแค่พอถั่วเขียวแตกก็พอ แล้ว
ก็ใส่น้ำตาลต้มให้น้ำตาลเข้าเนื้อถั่วแล้วค่อยเติมน้ำลงไปตามที่ต้องการ
ใช้ไฟอ่อนจนเดือด แค่นี้เราก็จะได้ถั่วเขียวต้มน้ำตาลใสน่ารับประทานแย้ว

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำตุ้ยนุ้ย (สำหรับเด็ก)








ส่วนประกอบ :

1. หมูสับ 200 กรัม
2. ผักกาดขาว 1 หัว
3. ผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ
4. ผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
6. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา
7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีทำ :

1. นำหมูใส่ส่วนผสมทั้งหมดคลุกๆ หมักไว้ 1 ชม.
2. นำน้ำใส่หม้อนึ่งตั้งไฟ ประมาณ 15-20 นาที
3. เสริฟทานกับข้าวสวยร้อน อาจจะจิ้มด้วย จิ๊กโฉ่ หรือ ซอสพริก

วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำให้ความเผ็ดหายจากครก


เพื่อนๆคงจะเคยเจอปัญหาความเผ็ดจากครก
หลังจากตำ พริกแล้วความเผ็ดก็ยังคงค้างอยู่ทำให้
อาหารจานต่อไปหมดรสชาติ วันนี้อยากจะแนะนำ
เคล็ดไม่ลับกับเพื่อนๆ ว่าลองเอาข้าวสารมาตำให้
ละเอียดแล้วบดไปบดมานานๆ แล้วจึงเทข้าวออก
หลังจากนั้นก็นำครกไปล้างน้ำแล้วนำครกนั้นไปตาก
แดดให้แห้งแค่นี้ครกก็จะหายเผ็ดแล้ว

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำทูน่าแซนวิส



ส่วนประกอบ :

1. ขนมปังแถว จะหั่นขอบหรือไม่ตามใจค่ะ 1 แถว
2. ทูน่า 2 กระป๋อง จะแบบน้ำมัน หรือ แบบน้ำก็ได้ตามใจชอบ
3. มายองเนส 1 ขวด

4. พริกไทย นิดหน่อย
5. เกลือ นิดหน่อย
6. พริกไทย นิดหน่อย

วิธีทำ :

1. นำทูน่าเทน้ำออก
2. นำทูน่ามายีๆๆๆ
3. นำส่วนผสมอื่นๆแล้วก็คลุกๆ แค่นี้เองค่ะเสร็จละ

***สูตรนี้เหมาะกับเด็กๆค่ะ พอดีหลานๆชอบแต่ตัวเองไม่ค่อยทาน
เพราะกลิ่นปลาจะแรงสำหรับตัวเองนะค่ะ แต่เด๋ววันหลังจะทำ
อันเด็ดของโปรดมาให้ เห็นเขาเรียกกันว่า ทูน่า แอ่นเอ็กสลัดแต่
ยังไม่เคยถามว่าสลัดยังไงเหรอเห็นเอามาทาขนมปังไว้ติดตามต่อไปนะค่ะ***

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีมูลข้าวเหนียวให้เก็บได้นาน

เมื่อหลังจากที่เรานึ่งข้าวเหนียวสุกดีแล้ว ก็นำมามูล
กับน้ำกะทิปิดฝาหม้อสะเลยค่ะ แล้วนำหม้อข้าวเหนียว
นั้นนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆหมุนไปหมุนมารอบๆ สักประมาณ
15 - 20 นาที แล้วค่อยกลงพอหลังจากนั้นก็ให้ระอุ
สักครู่ เคล็ดลับนี้ทำเพื่อให้สามารถเก็บไว้ค้างคืนได้
โดยไม่บูดแล้วสามารถเก็บไว้ทานได้หลายๆวัน โดย
ไม่ต้องเก็บไว้ ในตู้เย็นจ้า

**แต่ถ้าเพื่อนๆต้องการที่แช่ตู้เย็นส่วนมากจะเจอกับปัญหาว่าเอาออกมาแล้วข้าวเหนียวจะแข็งอุ่นแล้วก็ไม่อร่อยเหมือนเดิมเลยขอแนะนำเพื่อนๆ ว่าให้เพื่อนนำ pepper towel นำไปชุบน้ำหมาดๆแล้วนำนำมาคลุมไว้ที่ข้าวเหนียวแล้วเพื่อนๆก็นำไปอุ่นกับไมโครเวฟ แค่นี้เองค่ะก็จะยังคงรสชาติไว้เหมือนเดิมได้ แต่ก็ไม่ 100 % เหมือนของใหม่สะเลยทีเดียวนะค่ะ แต่พอแก้ขัดได้ อันนี้ขอแนะนำเพื่อนๆ แดนไกลค่ะ**

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำแฮมเบอร์เกอร์






ส่วนประกอบ :
1. เนื้อบด 200 กรัม
2. หัวหอมใหญ่ซอย 1 หัว
3. ต้นหอมซอยหรือ สับละเอียด 2 ต้น
4. ผักชีซอยหรือ สับละเอียด 2 ต้น
5. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
6. ขนมปังบัน 1 แพ็ก
7. ผักกาดหอม 1 ต้น
8. หอมใหญ่ซอย 1/2 หัว
9. ผักกาดแก้ว 1/2 หัว
10. มะเขือเทศหั่นแว่น 1 ลูก
11. ไข่ไก่ 1 ฟอง
12. น้ำมันหอย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
13. น้ำตาลทราย
14. แครอยซอย นิดหน่อยอาไว้แต่ง
15. ชีส
16. มายองเนส
วิธีทำ :
1. นำเนื้อบด หอมซอย ผักชีซอย พริกไทย
น้ำมันหอย น้ำตาล ไข่แดง ผสมรวมกันหมัก
ไว้อย่างต่ำ 1 ชม. หรือ 1 คืน
2. นำเนื้อที่หมักไว้แล้วมาปั้นเป็นก้อนนำออกมา
ย่างที่เตาอบ หรือจะมานาบกับกระทะก็ได้ตามสะดวก
3. พอได้เนื้อเบอร์เกอร์แล้วก็นำมาใส่ขนมปังนำผัก
กาดหอม ผักกาดแก้ว มะเขือเทศ ชีส มายองเนสใส่
ไว้ข้างในแล้วนำแครอทโรยหน้า
4.ส่วนอันนี้ทานกับสลัด เพื่อนๆ ก็นำสลัดมาใส่ตามชอบ
แล้วก็ onion ring ,เฟรนฟราย อร่อยเด็ดค่ะ
รับรองสูตรที่แนะนำอร่อยสู้กับร้านฮาร์ทร็อก คาเฟ่
ได้แน่นอนค่ะประหยัดไปหลายร้อยเลยทีเดียวค่ะ



วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำกระดูกหมูทอด

เวลาที่จะทำอาหารในบางครั้ง เพื่อนๆ คงจะเซ็งที่
เวลาเราจะทอด กระดูกหมูเครื่องที่หมักไว้มักจะไม่ติด
เนื้อ แนะนำเพื่อนๆว่า ให้เวลาตอนเราโขลกก็เอาขิง
ผสมลงไปหน่อย แค่นี้ก็จะทำให้เครื่องติดเวลาเราทอด
แล้วหล่ะจ้า

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำตะไลปูกับสลัด



ส่วนประกอบ :

1. เนื้อปู 1 ถ้วย
2. เนื้อหมูบด 1/2 ถ้วย
3. กระเทียมตำ 2 ช้อนโต๊ะ
4. พริกไทย 1/2 ช้อนชา
5. รากผักชีตำ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
6. ต้นหอมหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
7. ไข่ไก่ 2 ฟอง
8. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
10. หัวกะทิ 1 ถ้วย
11. พริกแดงหั่นฝอยนิดหน่อย สำหรับโรยหน้า
12. ผักชีเด็ดเป็นใบๆนิดหน่อย เอาไว้แปะหน้าให้สวยงามจ้า

วิธีทำ :

1. ตำรากผักชี กระเทียม พริกไทยเข้าด้วยกัน
2. ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน
3. ตักส่วนผสมที่คลุกกันแล้วนำไปหยอดในหลุมที่ทำเค็กก็ได้
หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ละลาย
4. นำไปนึ่ง หรือ อบ ประมาณ 10-15 นาทีแนะนำอบร่อยก่า
5. จะจิ้มกับซอสพริกก็อร่อยแล้วแต่ค่ะ แนะนำใช้ม้าบิน
จะทานกับข้าว หรือสลัดตามใจค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีต้มปลาไม่ให้คาว

เพื่อนๆก็คงเคยทานปลาแล้วหมดอารมณ์เหมือนกันใช่มะจ๊ะ
เมื่อพอทานแล้วเหม็นมากๆ เหมือนเจ๊หน่ะจมูก ลิ้น เร็วมาก
กับกลิ่นคาวพอได้กลิ่นปุ๊บ อูยไม่อยากทานไรต่อละวันนี้เลยจะ
แนะนำเคล็ดไม่ลับบางอย่าให้เพื่อนกันบ้าง คือ ถ้าเติมใบชาจีน
ลงไปสัก 6-7 ใบ และถ้าต้องการจะเพิ่มรสชาติปลาต้มให้ดีขึ้น
โดยการทุบหอมลงไปสัก 2-3 หัว เพียงเท่านี้เองจ้า

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำเกี๊ยวซ่าญี่ปุ่น



ส่วนผสมของแป้ง :

1. แป้งสาลี 2 ถ้วย
2. น้ำอุ่น 1/2 ถ้วย

ไส้ :

1. หมูสับ 200 กรัม
2. กะหล่ำปลีซอย ต้ม1/2 ถ้วย หรือจะนำไปผัดรวมกับหมูก็ได้แล้วแต่
3. กระเทียม 1 หัว
4. ขิงหั่นเต๋า 1/4 ถ้วย
5. ต้นหอมซอย 1 ต้น
6. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
7. mirin 2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำจิ้ม :

1. ซีอิ้วขาว 1/2 ถ้วย
2. Mirin 3 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำส้มสายชูทำจากข้าว 3 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
5. กระเทียมสับ 1 หัว
6. ขิงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
7. ต้นหอมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ :

1. นำส่วนผสมของไส้รวมผสมกัน หรือจะผัดรวมกันเลยก็ได้นะจ๊ะ
2
. ค่อยๆ นำแป้งไปผสมกับน้ำแล้วคนๆ คลึงๆให้แห้งแล้วใส่ภาชนะนำ
ผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆคลุมไว้ หรือใช้พลาสติกใสคุมก็ได้ค่ะพักไว้สัก 10 นาที
3. แล้วนำออกมาปั้นเป็นก้อนแบๆ เตรียมใส่ไส้
4. นำแป้งที่แบ่งแล้วเอาไว้ในมือทำมือห่อๆ แล้วก็นำไส้ใส่เข้าไป
5. พอใส่ไส้แล้ว ก็เอามือจิกที่ปลายๆ แบบทำกระหรี่ปั๊บ หรือวางลงแล้ว เอาปลายส้อมกด
6. ตั้งไฟใส่น้ำมันแล้วทอด บางคนก็นาบกับกะทะ หรือบางคนก็เอาไปใส่เตาอบแล้วแต่นะค่ะ
7. นำน้ำจิ้มผสมรวมกันแล้วก็ชิมตามรส ตัดเพิ่มเองนะจ๊ะ

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีเลือกซื้ออาหารกระป๋องและ อาหารบรรจุขวด

อาหารกระป๋อง
1. ไม่ควรเลือกกระป๋องที่บุบ
2. ควรซื้อที่มีใบรับรอง
3. อาหารกระป๋องที่ดี พื้นและด้านบนของกระป๋องจะเรียบเสมอกันไม่พอง


อาหารบรรจุขวด
- เพื่อนๆลองสังเกตุข้างบนเหนือน้ำดูนะค่ะว่า ถ้าอาหารนั้นถ้าเสื่อมคุณภาพ
แล้ว ฝาจะมีลักษณะถูกเปิด และในบางขวดก็จะมีราขึ้นซึ่งเราสามารถดูได้
ทางด้านก้นขวดค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำทาโค ยากิ (Takoyaki)




ส่วนประกอบ :
1. แป้งสาลี 3/4 ถ้วย
2. ไข่ 1 ฟอง
3. น้ำ 1 1/2 ด้วย
4. ในที่นี้ใช้ปลาหมึกต้มแทนนะจ๊ะ 1 ถ้วย
5. ต้นหอมซอย 1 ต้น
6. ขิงดองหั่นฝอยเล็กๆ1 ช้อนโต๊ะ
7. กะหล่ำปีหั่นฝอยๆ 1 ถ้วย
8. น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะไว้ทาที่หลุม
9. สาหร่ายผง
10. มายองเนส
11. ปลาแห้งญี่ปุ่นเอาไว้โรยหน้า
12. ซอสหวานญี่ปุ่น
วิธีทำ :
1. ผสมแป้ง น้ำและ ไข่ ค่อยๆผสมไปนะจ๊ะ
2. ตั้งเตาพอเริ่มร้อนทาด้วยน้ำมันพืชหรือจะทำเป็นแบบขนมคกจำได้มะจ๊ะใช้ผ้ามัดเอา
3. หยอดแป้งลงไปจนเต็ม แต่ที่ทำเอาแบบง่ายๆใส่ใส่ลงไปผสมกับแป้งเลยจ้า
4. พอเริ่มสุก ก็เอาไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปเพื่อพลิกด้านก๊าป
5. พอสุกแล้วก็นำมาโรยหน้ากับเครื่องที่เตรียมไว้จ้า
6. ถ้าจะทานกับผักสลัดตามใจชอบนะจ๊ะแก้เลี่ยน

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีการหมักเนื้อให้นุ่มน่าทาน

เพื่อนๆคงจะเคยเจอปัญหาที่เนื้อไม่นุ่มเหนียววันนี้
จะขอแนะนำ
เคล็ดไม่ลับหลายสูตรเลยทีเดียวค่ะ หรือ
บางสูตรที่กล่าวมาเคยทำแต่บาง
สูตรก็ยังไม่เคยทดลอง
ทำ เพื่อนๆก็ลองนำไปทดลองใช้ดูบ้างนะค่ะเฝื่อ
จะได้ผล
บ้างไม่สูตรใดก็สูตรหนึ่ง


เริ่มเลยนะจ๊ะ บางสูตรใช้ยางมะละกอ,น้ำสับปะรด
,หรือหมัก
อีกสูตรคือ ด้วยซีอิ้ว น้ำมันพืช พริกไทย เหล้าอีก
นิดหน่อยทุกสูตรที่กล่าว
มาข้างบนนี้ เจ๊ยังไม่เคยทดลอง
เลยหน่ะจ้า แต่สูตรนี้ที่เจ๊ทำประจำเพราะ
ส่วนมากจะมี
ติดบ้านกันอยู่แล้วคือ บางทีก็หมักด้วยไข่ขาว หรือบางทีก็
หมัก
ด้วยน้ำมันหอย หรือ อีกสูตรที่เคยทำแต่เคยอยู่ สอง
ครั้งถ้าจำไม่ผิดคือผง
โซดาไบคาร์บอเนต ยังไงเพื่อนๆ
ลองดูนะคะได้ผลยังไงก็เล่าสู่กันฟัง

บ้างนะจ๊ะ

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำผัดมะละกอหมูสับ





ส่วนประกอบ :

1. มะระกอสับ 1 ถ้วย
2. หมูสับ 100 กรัม
3. ไข่ 1 ฟอง
4. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
7. น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
8. พริกไทย ปลายช้อนชา


วิธีทำ :

1. นำน้ำมันตั้งไฟใส่กระเทียมตามด้วย หมูสับ และไข่
2. ใส่มะระกอ น้ำมันหอย น้ำตาลทราย พริกไทย

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีหุงข้าวให้หอม


หวัดดีจ้าวันนี้ขอแนะนำเคล็ดไม่ลับมาบอกนะจ๊ะ วิธีหุงข้าวให้หอม
จำได้ว่าเมื่อสิบกว่าปี
ที่แล้วมีข้าวยี่นึงจำมะได้ละว่ายี่ห้ออะไร
สมัยนู้นแพ็คเก็จยังไม่สวยงามเหมือนสมัยนี้ แพ็กเก็จ
เป็นสีเงาๆ
แหม๋หรูจังสวยงามตอนแรกที่ซื้อทานก็เพราะว่า แพ็กเก็จสวยดี
แท้น๊อ
แถมสมัยนั้นข้าวแบบที่มีใบเตยไม่เคยมีที่เห็นก็อันนี้อันเดียว
แหม๋จากบ้านไปนานกลับมาอีกทีอูย
ทันสมัยไฮเทคแท้น๊อ เอาหล่ะ
ฝอยสะน้ำลายแตกฟองเลยวันนี้เริ่มกันเลยนะจ๊ะ


เวลาจะหุงข้าวใช้ข้าวสาร 1 กระป๋องใส่ข้าวเหนียว 2 ช้อน
โต๊ะหุงโดยไม่ต้องเช็ดน้ำ
และใส่ใบเตยลงไปเล็กน้อยนะก๊าปป
จะทำให้นิ่มหอมน่ารับประทานเชียวหล่ะ

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

California Roll





mizkan
ส่วนประกอบ :
1. สาหร่าย 3 แผ่น
2. ไข่ปู 2 ช้อนโต๊ะ
3. อะโวคาโด้ 1 ลูก ..แต่ทำครั้งนี้ไม่ได้ใส่จ้าเพราะว่าแถวบ้านวันนี้ไม่มีขาย (แหม๋พอพูดถึงเจ้านี่นะเพื่อนๆ ลองผ่า
กลางลูกแล้วเอามีดเฉาะที่เม็ดนะค่ะแล้วก็ดึงออกมา ง่ายนิดเดียวแล้วเอาน้ำตาลโรยน๊า แล้วเอาช้อนตักจ้วง อาหย่อยเด็ด
4. ปูอัด 1 ถ้วย ปรกติทำไม่ได้ใส่ แต่ครั้งนี้พอดีของโปรดเจ้า หลานๆๆ ทั้งสาม
5. แตงกวา 1 ลูก
6. งาดำ และ ขาว คั่วผสมกัน 2 ช้อนโต๊ะ แบบว่าชอบก๊าปป ถ้าคนไม่ชอบก็ลดตามส่วน
7. วาซาบิ 1 ซอง ..ซื้อเอาเล็กๆ ง่ายดี
8. โชยุ 1/2 ช้อนชา
9. ข้าวญี่ปุ่น 2 ถ้วย
10 . ไข่ 2 ฟอง ทอดแบบทำไข่ยัดไส้ หรือไข่ม้วน ทองบางๆหรือหนาก็ได้ตามชอบ
11. เกลือนิดหน่อย
12. น้ำส้มสายชู จะใช้ยี่ห้อ mizkan ก็ได้นะจ๊ะ
...บางสูตรเขาก็เอามายองเนสมาผสม หรือเพื่อน จะเอาผักหรือเนื้อไร ก็ได้ที่ชอบเน๊อะ...
วิธีทำข้าว :
1. แช่ข้าวสัก 1/2 ชม. จะแช่ก็ได้หรือไม่แช่ก็ได้แต่มีคนแนะนำว่า แช่แล้วจะอร่อย
2. หุงข้าวเติมน้ำ สัก 2 หรือเท่าๆ กับข้าวที่เราทำน๊า แต่ที่ทำวันนี้ใส่น้ำแยะไปนิด อิๆ แฉะแป่ะเยย
3. พอข้าวสุกทิ้งไว้ให้เย็น
4. ตั้งไฟอ่อน แล้วเอาน้ำตาล เกลือ น้ำส้มสายชู แล้วก็คนๆพอเข้ากันแล้วปิดไฟแล้วเอามาผสมข้าวพักไว้ให้เย็น
วิธีทำโรล :
1. นำไม้ไผ่ wrap ด้วยพลาสติกใสเพื่อไม่ให้ติดไม้ไผ่
2. นำเอาสาหร่ายวางไว้ก่อน แล้วเอาข้าวที่ทำเตรียมไว้วางๆลงไปแบๆ
3. นำงาคั่ว มาโรยก่อนหนึ่งรอบ
4. แล้วนำไข่ปู หรือไข่กุ้ง ไม่ชอบไม่ต้องใส่ ทาๆๆบางๆ
5. กลับด้านของสาหร่ายคว่ำลง
6. นำผัก เนื้อทุกอย่างที่เตรียมไว้วางบนสาหร่ายแล้วโรยงาอีกที
7. นำมาม้วนๆให้แน่น
*** เพื่อนๆ ชอบผักอะไร ชอบเนื้ออะไรก็นำมาใส่ตามใจชอบนะจ๊ะเพราะแต่
ละคนก็คงชอบไม่เหมือนกัน สูตรพวกนี้ไม่ตายตัวหรอกค่ะไส้จะทำสูตรตามใจชอบ
ได้ทั้งนั้น ยังเคยทำไส้ไก่ผัดตะไคร้แล้วม้วนๆ ก็อร่อยอีกแบบๆ ไทยๆ ไม่เลี่ยนดี อุอุ***


วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทอดปลาไม่ให้ติดกระทะ

วันนี้ขอนำเสนอเรื่องทอดปลายังไงไม่ให้ติดกระทะ โดยปรกติเพื่อนๆ จะเคยเจอปัญหาเช่นเดียวกันใช่ไม๊จ๊ะ พอทอดไปติดไปเริ่มเซ้ง ลองแบบนี้ดูนะจ๊ะความเซ็งจะหายไป

...ลองโรยเกลือลงไปในกระทะที่ตั้งไฟก่อนแล้วจึงใส่น้ำมันตามลงไปดูว่าน้ำมันร้อนได้ที่แล้วหรือยังถ้าร้อนแล้วก็ใส่ปลาลงไปทอดดูนะจ๊ะ

...อีกวิธีคือนำแป้งข้าวโพดหรือแป้งอะไรก็ได้ทาบางๆลงบนตัวปลาก่อนที่ทำการทอดแค่นี้ก็หมดปัญหาแล้วจ้า

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำหมูสะเต๊ะ


ส่วนประกอบ :
1. เนื้อหมู 200 กรัม
2. ลูกผักชีบด 1 ช้อนชา
3. ยี่หร่าบด 1/2 ช้อนชา
4. ข่าสับละเอียด 1 ช้อนชา
5. ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
6. ขมิ้น 1 ช้อนชา
7. พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
8. เกลือ 1/2 ช้อนชา
9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
10 หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
11.ไม้สำหรับเสียบ 20 ไม้
วิธีทำ :
1. หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นบางๆ กว้างราวสักประมาณ 1 นิ้ว ยาว 2 นิ้ว จะได้ชิ้นโตๆ
2. โขลกลูกผักชี ยี่หร่า ข่า ตะไคร้ ขมิ้น เกลือและพริกไทยให้ละเอียด
3. ใส่หมูลงไปแล้วใส่น้ำตาล หัวกะทิลงเข้าไปแล้วก็ทำการคลุกๆๆ
แล้วหมักทิ้งไว้สักประมาณ 30 นาที หรือนานกว่านั้นก็ได้นะจ๊ะ แล้วแต่สะดวก
4. เอาเนื้อหมูที่หมักเสร็จแล้วนำมาเสียบไม้ตามยาวนะจ๊ะ แล้วนำมาปิ้งโดยใช้
เตาถ่าน หรือถ้าเพื่อนๆ อยู่แดนไกล ใช้ที่ปิ้งขนมปังเยย แหล่ะก๊าง่ายดีจ้า
เอาไฟปานกลางแล้วใช้น้ำหมักเนื้อหมูนำมาทาบ้างเป็นครั้งคราวพอเสร็จแล้วก็
เสริฟด้วยน้ำจิ้ม และอาจาด
เครื่องปรุงน้ำจิ้ม :
1. น้ำพริกแกงแดงประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
2. กะทิ 2 1 ถ้วย
3. ถั่วลิสงคั่วบด 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
5. น้ำส้มมะขาม 1/2 ถ้วย
6. เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ :
1. ผสมถั่วลิสงกับน้ำพริกแกงแดง
2. ตักหัวกะทิแล้วแยกขึ้นมาเก็บไว้ก่อน แล้วใส่หัวกะทิลงในกระทะตั้งไฟเคี่ยวจน
แตกมันแรกๆก็อย่าพึ่งไปคนนะจ๊ะ พอร้อนเดือดปุดๆ ค่อยคน แต่ไฟก็ปานกลางนะจ๊ะ
ใส่ถั่วลิงสงลงไปในน้ำพริกแล้วผัดจนเข้ากันดีแล้วก็เติมกะทิที่แยกเอาไว้ตอนแรก
เทลงไป แล้วหรี่ไฟลงแล้วหมั่นคนๆ
3. แล้วก็ปรุงรสตามชอบใจ ด้วยน้ำตาล น้ำส้มมะขามเติมเกลือลงไปเมื่อน้ำจิ้มข้น
แล้วค่อยตักใส่ถ้วยนะก๊าปป
เครื่องปรุงอาจาด :
1. แตงกวา 1 ผล
2. หอมแดง 1 หัว
3. พริกแดง หรือเขียว 1 เม็ด
4. น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
5. น้ำตาลทราย 1ช้อนชา
6. เกลือ นิดหน่อย
7. ผักชีหั่นหยาบ 1 ช้อนชา
วิธีทำ :
1. นำแตงกวามาผ่าครึ่งตามยาวแล้วหั่นตามขวางเป็นชิ้นบางๆ แล้วก็ซอย
หัวหอมและพริก ใส่แตงกวา หัวหอมและพริกไว้ในถ้วย
2. เอาน้ำส้ม น้ำตาล เกลือ ใส่หม้อเล็กๆตั้งไฟอ่อนๆ หมั่นคนๆๆ จนน้ำตาล
กับเกลือละลาย พอเดือดแล้วยกลง ทิ้งเอาไว้ให้เย็นแล้วก็ใส่แตงกวาลงไป
คลุกๆ ชิมๆ แล้วก็โรยด้วยผักชีก๊าปป
*** เพื่อนๆที่อยู่แดนไกลเอาแบบง่ายๆนะจ๊ะที่เจ๊ทำประจำ ไปที่ร้านซุปเปอร์
ไทย หรือ จีน หรือซุปเปอร์ฝรั่งบางที่ก็มีแล้วที่นั้นจะมีขาย ยี่ห้อ โลโบ้ อุ๊ยยย
ง่ายมากสะดวกไม่ยุ่งยากเย๊ย นำมาหมักได้เลยก็เหมือนนะก๊าๆๆ เชื่อเต๊อะ
..หรืออย่างถ้าเป็นน้ำจิ้มเอาง่าย ก็จะแนะนำเอา peanut butter ของ
ต่างชาติมาผสมดัดแปลงได้นะจ๊ะ ง่ายอีกน่านแหล่ะ อุอุ***

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีเก็บบะหมี่ให้นานและนุ่ม

หวัดดีจ้า

วันนี้ขอนำเสนอเคล็ดลับสำหรับคนรักเส้นนะจ๊ะ คิดว่าเพื่อนๆ เกือบทุกคนก็คงเคยทำบะหมี่ที่ไม่หมดแล้วก็นำไปเก็บแช่ไว้ที่ในตู้เย็น หรือคุณแม่บ้านทั้งหลายเชื่อเต๊อะ เหมือนๆกันแหล่ะประเภทเห็นแล้วซื้อๆ เก็บแช่จนเน่าลืมไปเล๊ย อิๆ หรือไม่ก็เพื่อนๆที่อยู่ต่างแดนเป็นเรื่องปรกติที่ซื้อเส้นมาแล้วก็เก็บเอาไว้ก่อนในตู้เย็นไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไรก็ตามที่ทำเสร็จแล้วก็ wrap เอาไว้เผื่อไว้มื้อหน้าจิงมะจ๊ะ แล้วเส้นบะหมี่ก็เหมือนกันส่วนมาก ประเภทพอนำมานำรอบสอง แหม๋หิวๆอยู่ พอเห็นเส้นแข็งปังฉุนเหมือนกันพอทำรสชาติมันก็เปลี่ยนไปละ เห่อๆกิ๊วๆ รู้สึกเหมือนกันหล่ะจิ เอาเป็นว่าวันนี้จะแนะนำเกล็ดเล็กๆน้อยๆ พอแก้ขัดได้นะจ๊ะ

..นั้นเพื่อนๆก็ลองนำใบผักกาดเขียวหรือผักกวางตุ้งที่ยังสดๆอยู่นะค่ะ เอามาห่อเส้นไว้แล้วก็ห่อด้วยผ้าอีกชั้นนึงแล้วก็นำไปแช่เหมือนเดิมแหล่ะจ้า น้ำจากผักมันจะระเหยออกมาแล้วจะทำให้บะหมี่นุ่มอยู่ตลอดเวลาแหล่ะก๊า ได้ผลไม่ร้อยเปอร์อย่าว่ากันนะจ๊ะ

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำ katsu don

ส่วนประกอบ :
1. ข้าวสวย 1 ถ้วย

2. เนื้อหมูชุปแป้งทอดหั่นสไลด์ 1 ชิ้นใหญ่

3. น้ำสต๊อกปลา 1 1/4 ถ้วย

4. ซอสถั่วเหลือง 3 ช้อนโต๊ะ

5. มิริน 1 ช้อนโต๊ะ

6. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

7. ไข่ 2 ฟอง

8. หัวหอมใหญ่ซอย

9. ซุปทำง่ายๆ นะค่ะซื้อที่ซุปเปอร์ ชื่อ vono Orientalเป็นซุปรสไก่สาหร่ายญี่ปุ่น

ห่อเล็ก 10 บาทเองค่ะ ง่ายเลยได้ 1 ถ้วย แต่ว่า หาเต้าหู้มาใส่เพิ่มก็ดีนะค่ะเพราะในซอง

พอต้มแล้วมันแข็ง ก็แค่นำมาแล้วไปต้มน้ำเท่านั้นเองค่ะ

วิธีทำ :

1. เทน้ำน้ำซุปลงในกะทะหรือหม้อตั้งไฟปานกลาง

2. ใส่ซอสถั่วเหลือง มิริน น้ำตาลลงไป

3. พอเดือดนิดๆใส่ หัวหอมทิ้งไว้สักแว๊ปนะจ๊ะ

4. ใส่หมูทอดที่หั่นแล้วลงไปวางตรงกลางหรี่ไฟเบาๆนะก๊าปป

5. ตีไข่หรือจะใส่หัวหอมลงไปง่ายๆดีค่ะ หรือจะวางหัวหอมหรือผักที่ชอบวางว

ไว้บนหน้าหมูทอดก่อนก็ได้แล้วแต่สะดวก

6. แล้วก็ปิดฝาเอาไว้รอสักแว๊ปแล้วก็ปิดไฟ

7. ก็เอามาราดหน้าที่ข้าวก็ทานได้แจ้วจ้า

**ถ้าเพื่อนๆไม่มีเครื่องปรุงแบบที่บอก ก็เอาอะไรก็ได้ที่มีอยู่ในครัวเราใส่เข้าไปแทน

ได้นะจ๊ะไม่ผิดกติกา**

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีการล้างหอยให้สะอาด

หวัดดีกั๊บบบ

เพื่อนๆก็คงชอบทานอาหารประเภทหอย ข้าพเจ้าก็ชอบมั๊กๆนะก๊าป แต่ตอนนี้หมอห้ามเพราะกลมไปไม่ออกกลังกายเลยจะกลิ้งได้แย้วเด๋วนี้เลยกลัว เลยต้องทำตามคำสั่งของคุณหมอ แต่ก็อีกอะนะจ๊ะ เพราะเป็นคนชอบทานเลยแอบทานบ้าง คุณหมอห้ามทานอาหารทะเล และอื่นๆอีกมากมาย แหม๋ทนทานผัก ทานหญ้าไปเดือนนึงทน บ่ไหวเริ่มเผด็จการหารอาหารอร่อยๆ ทานอีกตาม
ระเบียบวันนี้ขอพูดเรื่องหอยละกันนะค่ะ พอดี คุณขาบ คุณสุทธิพงษ์ สุริยะแนะนำมาเลยนำมาฝากพอดีตอนกลับมาอยู่บ้านใหม่ๆ อยากได้ความรู้ เลยพอดีเห็นคุณขาบในทีวี เลยเมล์ไปหา คุณขาบเขาหน่ะก๊าป ของเปงลูกศิษย์ แต่ขอชม นะค่ะว่า คุณขาบ เป็นคนจิตใจงามมากเลยค่ะ เต็มใจสอนให้โดยเต็มใจ แหม๋ เป็นถึง Food stylist ชั้นนำของเมืองไทย วันนี้เลยขอชมคุณเขาสักนิดนะจ๊ะเพราะเคล็ดลับส่วนใหญ่ คุณเขาแนะนำมาจ้า เพื่อนๆอย่าพึ่งเซ็งหล่ะ จุ๊ๆๆ

http://www.karbstyle.com/
...นำน้ำใส่ชามแล้วใส่เกลือลงไปเล็กน้อย แล้วก็นำหอยลงไปแช่ขยำๆๆให้หอยคลายโคลนออกมา หรือแช่ทิ้งไว้สักพัก แค่นี้เองจ้า
...แนะนำอีกวิธีนะจ๊ะ ให้นำหอยแช่ไว้ในน้ำแล้วก็ตำพริก เสร็จแล้วก็เอาซากที่ติดพริกเอาลงไปวนๆๆในน้ำเพียงเท่านี้เอง สงสัยหอยมันจะเผ็ด เห่อๆ แต่ว่าไม่ต้องเอาทั้งครกหรอกค่ะเสียดายพริกเก็บไว้ทำอย่างอื่นดีก่าเน๊อะ

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำปลานิลเจี๋ยน





ส่วนประกอบ :
1. ปลานิล 1 ตัว
2. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
3. ขิง 1 ถ้วย
4. หัวหอมใหญ่ 1 หัว
5. เห็ดหอม 1 ถ้วย
6. เห็ดนาฟ้า 1 ถ้วย
7. ผักชีนิดหน่อยเอาไว้โรยหน้า
8. ต้นหอมหั่นประมาณ 1/2 นิ้ว
9. ขึ้นฉ่ายหั่นประมาณ 1/2 นิ้ว
10. พริกไทย ปลายช้อนชา
11. น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
12. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
13. ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนชา
14. น้ำมันเอาไว้ทอดและผัด
15. พริกแดงซอยเอาไว้โรยหน้า 1 เม็ด
วิธีทำ :
1. เทน้ำมัน 1 ชัอนโต๊ะลงในกระทะพอน้ำมันเริ่มร้อนก็ใส่กระเทียมลงไป
2. ใส่ส่วนประกอบทั้งหมดลงไป
3. ทอดปลานิลให้กรอบแล้วนำที่ผัดเสร็จแล้วราดไปที่ตัวปลาแล้วตาด้วยผัดชีและพริกแดง
ถ้าเพื่อนๆ ชอบปลาอะไรก็ใช้ปลานั้นนะจ๊ะ แต่เลือกปลานี้เพราะว่าชอบทานกรอบๆ อีกอย่าง
ที่เด็ดคือราคาถูก เห่อๆ หรือไม่ก็เอาปลานิลทอดกรอบทานกับน้ำปลาพริกมะนาว หรือน้ำพริก
กะปิก็อร่อยเด็ดเชียวหล่ะ หรือถ้าไม่ชอบทอดก็นึ่งก็ได้

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีการยำกุ้งให้อร่อย

หวัดดีก๊าปปปเพื่อนๆทุกคน

วันนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับในการยำกุ้งสดให้อร่อยเด็ดเริ่มกันเยยนะจ๊ะ
ลองใช้กุ้งตัวใหญ่ๆ และไม่ต้องแกะเปลือกออกนะจ๊ะ แล้วก็นำไปต้มกับน้ำกะทิ
แล้วก็เคียวๆๆ จนแตกมันเมื่อกุ้งสุกแล้วก็ให้แกะเปลือกออกแล้วนำมายำก็จะได้
เนื้อกุ้งที่มีรสหวานอาหย่อย กลิ่นก็หอมรสชาติก็จะดียิ่งขึ้นเจ้าค่ะ

วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วิธีทำโอโคโนะมิยากิ お好み焼き




วันนี้ขอนำเสนออาหารจานโปรดอีกจานเด็ดในวันนี้เห็นอีกรอบก็น้ำลายเจ็ดกันเลยทีเดียว
ดูแล้วอาจจะคิดว่า เอ...จะทำยากไม๊น้อไม่ยากอย่างที่คิดหรอกค่ะลองฝึกฝีมือกันนะจ๊ะ
ส่วนประกอบ :
1. ปลาหมึกหั่นซอย 150 กรัม
2. มะเขือเทศสับ 1 ลูก
3. กล่ำปลีซอยละเอียด 1 หัว
4. ต้นหอมซอย 2 ต้น
5. กุ้งแห้ง 1 กำมือ
6. ไข่ไก่ 6 ฟอง
7. แป้งสาลี 160 กรัม
8. น้ำสต๊อกปลา 1 ถ้วย
9. ปลาโออบแห้งไสเป็นฝอย 1 หยิบมือ หาแบบสำเร็จรูปก็ได้ค่ะง่ายดีเอาไว้โรยหน้า
10. สาหร่ายหั่นซอยเอาไว้โรยหน้า
11. มายองเนส 2 ช้อนโต๊ะ
12. ซอสโอโคโนมิยากิ 1 ช้อนโต๊ะ
13. มัสตาด 1 ช้อนชา
14. wouchester ซอส 1 ช้อนชา
15. ทงคัทซึซอส 1 ช้อนชา
16. ยามาอิโมะฝนๆ 40 กรัมไม่มีไม่ใส่ก็ได้ค่ะ
17. น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ :
1. นำแป้ง มายาอิโมะและไข่ผสมกันตีๆให้เข้ากันถ้ามีเครื่องก็ใช้เครื่องนะค่ะ
2. ใส่น้ำสต๊อกลงไปแล้วคนๆๆ
3. นำส่วนผสมทุกอย่างลงไปแล้วก็คนๆๆให้เข้ากัน ยกเว้น ข้อ 9,10
4. ตั้งไฟด้วยกะทะแบนๆ ไม่มีก็กลมๆก็ได้ค่ะ เทน้ำมันลงไปพอร้อนๆไม่จัดนะค่ะ
5. ก็ตักแป้งที่ผสมแล้วทั้งหมดหยอดลงในกะทะ
6. พอเหลืองๆก็พลิกกลับอีกด้านนึงพอเสร็จแล้วก็นำขึ้นมา
7. โรยหน้าด้วย ข้อ 9,10 แค่นี้เองค่ะ
แต่ถ้าเพื่อนๆชอบแบบเดียวกันคือ แบบอ้วนๆก็เพิ่มมายองเนสและมัสตาดลงไปแยะๆปรุงด้วยซอสอะไรก็ได้ที่ชอบราดไปข้างหน้าอีกที อิๆ เพียงแค่นี้ก็ อร่อยอ้วนท้วนสมบูรณ์เหมือนเจ๊แล้วก๊าปป
ส่วนผสม หรือวิธีการที่ทำไม่ตรงตามตำราหรอกนะค่ะ แบบว่าเอาง่ายแล้วเร็วเข้าว่าหน่ะจ้า
แก้ขัดได้อย่าว่ากันนะจ๊ะ enjoy your meal...

 
Blogger design by suckmylolly.com